ตลาดหลักทรัพย์ไทย
ไถ่ถอนเงินลงทุน (Redemption)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวก ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,207.94 จุด ลดลง 1.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,346 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ภาวะขายมากเกินและแนวโน้มการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน (ระวังผลกระทบจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก)
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ของสหรัฐฯ กดดันให้นักลงทุนนำหุ้นออกขายเพื่อไถ่ถอนเงินลงทุนจากปัจจัยเสี่ยง ดัชนีดาวโจนส์ ดัชนี S&P 500 และแนสแดคดิ่งลงกว่า 3.4 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ดัชนีปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 1,212 จุด โดยมีจุดต่ำที่ 1,197 จุดเป็นแนวรับ และมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,177 จุด ช่องว่างขาลง (Gap) ทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,223 – 1,233 จุด กรณีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับที่ 1,200 จุด ดัชนีตลาดจะมีความเสี่ยงทางเทคนิคัลในระยะสั้น ดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) และมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับเมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,278 จุด ก่อนที่จะปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น iii),v ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,219 – 1,231 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,197 – 1,188 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity
ไถ่ถอนเงินลงทุน (Redemption)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยบวก ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,207.94 จุด ลดลง 1.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,346 ล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นลบ ภาวะขายมากเกินและแนวโน้มการเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ของ RSI จะกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าเก็งกำไร หนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวขึ้นทางเทคนิคัล แต่จะเป็นการปรับตัวขึ้นเพื่อปรับฐาน (ระวังผลกระทบจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก)
การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ของสหรัฐฯ กดดันให้นักลงทุนนำหุ้นออกขายเพื่อไถ่ถอนเงินลงทุนจากปัจจัยเสี่ยง ดัชนีดาวโจนส์ ดัชนี S&P 500 และแนสแดคดิ่งลงกว่า 3.4 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดแกว่งตัวแคบๆและเคลื่อนตัวออกด้านข้าง (Sideways) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ดัชนีปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 1,212 จุด โดยมีจุดต่ำที่ 1,197 จุดเป็นแนวรับ และมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาลงทำหน้าที่เป็นแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,177 จุด ช่องว่างขาลง (Gap) ทำหน้าที่เป็นแนวต้านอยู่ที่ 1,223 – 1,233 จุด กรณีดัชนีตลาดไม่สามารถยืนปิดเหนือแนวรับที่ 1,200 จุด ดัชนีตลาดจะมีความเสี่ยงทางเทคนิคัลในระยะสั้น ดัชนีตลาดจะปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด
จากกราฟรายสัปดาห์ ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวลงเป็นคลื่นปรับ (Corrective wave) คลื่น ii) และมีทิศทางปรับตัวลงเข้าหาแนวรับ 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,154 จุด ดัชนีตลาดจะยืนยันการจบคลื่นปรับเมื่อดัชนีตลาดสามารถปรับตัวขึ้นปิดเหนือ 1,278 จุด ก่อนที่จะปรับขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น iii),v ซึ่งมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 1,454 จุด
สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นลบ ทำให้ดัชนีตลาดระยะสั้นอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อปรับฐาน
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,219 – 1,231 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,197 – 1,188 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
ถือพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 40 เปอร์เซ็นต์
#ป.ดัชนี, #บัญชรหุ้น, #วิเคราะห์หุ้น, #Forex, #Commodity