SET:SET   ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
SET ยังคงเปิดลบในเช้าวันนี้ ถึงแม้จะมีการสร้างเซอร์ไพร้ จาก FED ที่ออกมาประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25%
ส่วนการความเห็นในการกดอัตราดอกเบี้ยให้ลงไปติดลบนั้น ยังไม่มีสัญญาณจาก FED ในตอนนี้ และทาง FED ได้ยกเลิกการจัดประชุมในวันที่ 17-18 มี.ค.ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม หลังจากที่จัดการประชุมฉุกเฉินไปเมื่อวาน

นอกจาก SET ทางฝั่ง Nikkei , Bench,ark ก็ปรับตัวร่วงลงในช่วงควอเตอร์แรกของชั่วโมงการซื้อขาย เช่นกัน

กลายเป็นว่าตลาดจะยังไม่ตอบสนองต่อมาตรการที่ออกมาของ FED สักเท่าไหร่
เนื่องจากความกังวัลในเรื่องการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสยังคงมีมากอยู่บวกกับภาพรวมเศรษฐกิจ ที่ยังมีแนวโน้มทีจะแย่ลงไปอีก

นอกจากเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว FED ยังออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีการจัดการดังนี้
- ซื้อพันธบัตรรัฐบาล (Treasury) 5 แสนล้านดอลลาร์
- ซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน 2 แสนล้านดอลลาร์

ซึ่งทั้งสองวิธีนี้จะเริ่มทำการซื้อตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีการขยายระยะเวลาของเงินกู้เป็น 90 วัน เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องและความมั่นคงของระบบการเงินการธนาคาร และให้กระแสเงินสดกับเครดิตทั้งระดับครัวเรือนและภาคธุรกิจ

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ FED ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนกว่าจะมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา

ในส่วนของคธนาคารกลางอื่น ๆในอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารแห่งชาติสวิส
ได้จัดวงเงินสำหรับธุรกรรม (Swap) เพื่อให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่สถาบันทางการเงินในประเทศได้ง่ายขึ้นท่ามกลางความตึงตัวในตลาดเงินกู้ พร้อมทั้ง
ออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยลงขานรับการประกาศลดดอกเบี้ยของ FED และไฟเขียววงเงินกู้ระยะเวลา 3 เดือนพร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำกว่าปกติอีกด้วย

===============================
ในส่วนของ ปัจจัยเชิงเทคนิค
โมเมนตัมของราคายังคงอยู่ในฝั่ง Bearish ภาพรวมระยะกลาง - ระยะยาวยังคงไม่มีสัญญาณกลับตัวใดๆให้เห็น โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงไปตามสัดส่วนของ Fib retracement ที่ 423.2 หรือที่ 894 จุดยังมีอยู่
กรณีรีบาวน์กลับขึ้นไปจะมีแนวต้านอยู่ที่ 1100 - 1200 จุด ตามลำดับ


มุมมองส่วนตัวผมคาดว่า การปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมายังไม่สะท้อน ภาพรวมเศรษฐกิจออกมาทั้งหมด การปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา มันมีส่วนประกอบในเรื่องของ panic sell และ forced sell
ซึ่งคงต้องคอยจับตาดูภาพรวมตลาดหลังจาก ผลประกอบการใน ไตรมาสแรก ออกมาอีกที ทั้งนี้ การอัดฉีดวงเงินอาจช่วงพยุงตลาดได้ในระยะสั้น แต่ถ้าผลกระทบที่เกิด สร้างความเสียหายให้กับภาคธุรกิจต่างๆมาก
โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงต่อก็ยังมีอยู่





คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ