SET:SET   ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ไทย

ปัจจัยภายนอกกระทบตลาด
การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐยังไร้ข้อสรุป บวกกับข้อพิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,665.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท สัญญาณทางเทคนิคัลเป็นบวก ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,681 จุด ต่างชาติและสถาบันภายในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิ จับตาผลกระทบจากปัจจัยนอกประเทศอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น

ปัจจัยทางเทคนิค
จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงปิดช่องว่าง (Closing the window) ที่ 1,659 – 1,665 จุด โดยมีกรอบล่างของช่องแนวโน้มขาขึ้นทำหน้าที่เป็นแนวรับอยู่ที่ 1,652 จุด เส้น Multiple Moving Average แบบ Long – Term (MMA2) เริ่มเรียงตัวแบบตลาดขาขึ้น ระยะสั้นดัชนีตลาดอยู่ในช่วงพักตัว แต่ระยะกลางดัชนีตลาดเคลื่อนตัวอยู่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น และมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้าน 61.8% Fibonacci Retracement ที่ 1,681 จุด

จากกราฟรายวัน ดัชนีตลาดมีแนวโน้มจบคลื่น iv) ที่ 1,634 จุด และกำลังปรับตัวขึ้นเป็นคลื่นส่ง (Impulse wave) คลื่น v) หรือคลื่น (i),v) จากหลักการ Wave Equality คลื่น v) จะยาวเท่ากับ 0.618 เท่าของความยาวของคลื่น iii) ที่วัดจากจุดเริ่มต้นของคลื่น i) คลื่น v) จึงมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,709 จุด โดยมีเส้นแนวขาลงระยะยาวทำหน้าที่เป็นแนวต้านร่วมอยู่ที่ 1,700 จุด

สัญญาณ Oscillator จากกราฟรายวัน สัญญาณทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นบวก ทำให้ดัชนีตลาดมีทิศทางปรับตัวเข้าหาแนวต้านที่ 1,681 จุด
ทิศทางตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น มีกรอบแนวต้านอยู่ที่ 1,670 – 1,675 จุด และมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,659 – 1,654 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
พอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต หลังดัชนีตลาดยืนเหนือ 1,667 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท และควรเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดัชนีตลาดปรับตัวลดลงเข้าหาแนวรับที่ 1,668 – 1,665 จุด
คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ