TVC:GOLD   สัญญาการซื้อขายส่วนต่างทองคำ (ดอลลาร์สหรัฐฯ / ออนซ์)

ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ

1. QBPBSTAS Balance Sheet 8,954 หลังจากประกาศของเฟดเมื่อคืนวันที่ 16 ที่ผ่านมา เฟดได้เข้าซื้อ พธบ.เพิ่ม ( #หนุนทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.32871%---> 0.33014% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวขึ้น #กดดันทองคำ )
3.การคาดการณ์ของCMEGroup มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50-0.75% ได้ปรับตัวลงที่ 51.6%---> 33.9% และคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1.00% ได้ปรับตัวลงที่ 66.1% (#กดดันทองคำ)
4.Reverse repo rate 1,715--->1,763คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการฟื้นตัวขึ้นระยะสั้นอาจทำให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก (หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.9--->2.91 ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
6.กองทุน SPDR วันที่ 22 ไม่มีการเข้าซื้อแต่อย่างใด ( - )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.28 --->2.3 ยังอยู่ในโซนพักฐาน ยิ่งขึ้นไปยิ่งกดดันให้เฟดใช้มาตรการเข้มงวดทางการเงิน ( หนุนทองระยะสั้น กดดันทองในระยะยาว )
8. FRED:GVZCLS ดัชนีความกลัวของทองคำ ที่ 22.20 ---> 21.89 ความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง เล็กน้อย ( กดดันทองคำ )
9.ดัชนีหุ้นเหมืองทองคำ NYSE:HUI ไม่สามารถกลับไปเทสไฮเดิมได้ อาจจะมีการลงต่อก็เป็นได้ ( กดดันทองคำ )
10.US30 ดาวน์โจนส์ปรับสูงขึ้น ( กดดันทองคำ )
11.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย -0.569 --->0.511 มีการปรับตัวขึ้นมา( กดดันทองคำ )
12. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 2.331 ---> 2.403( กดดันทอง )
13. TIP หรือตราสารหนี้ มีการปรับตัวลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
14. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ 98.8065 --->98.4565 เริ่มมีการย่อบ้างเล็กน้อย ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
15. SILVER แร่โลหะ ปรับตัวลงต่อเนื่อง ( กดดันทองคำ )
16. GOLDSILVER อัตราส่วนทองคำและเงิน เริ่มมีสัญญาณในแดนลบ ในรูปแบบการไซด์เวย์ลงเรื่อยๆ ( กดดันทองคำ )
17.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.058 ( กดดันทองคำ )
18. US10Y-US02Y 0.152 ---> 0.228 เป็นตัวชี้วัดของสถาบันการเงินต่างๆที่มีผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้น ( เริ่มมีการขยับขึ้นเรื่อยๆ กดดันทองคำ )
19. Put/Call OI Ratio 0.55 ---> 0.59 มีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยอาจทำให้ทองคำขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทองคำ )
20.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 40 ---> 44 ยังอยู่ในแดนกลัว หากปรับตัวขึ้นเรื่อยๆก็เริ่มจะส่งผลดีในด้านของราคาหุ้นและบิทคอยน์ แต่จะส่งผลเสียให้ราคาทองคำ ( กดดันทองคำ )
21.ฝั่งของราคาน้ำมัน มีการปรับตัวลงมา 112.38$ ---> 109.52$ USOIL ราคาน้ำมันยังส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ราคาสินค้าในตลาดและภาคอุตสหกรรม ( กดดันทองคำ )

***ทองคำร่วงลงในเช้าวันพุธในเอเชีย โดยทรงตัวเนื่องจากสงครามที่ดำเนินต่อเนื่องในยูเครนสนับสนุนความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม
การเรียกร้องจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด
***เจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางเซนต์หลุยส์ เรียกร้องให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 3% ในปีนี้
และเคลื่อนไหวอย่างจริงจังเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ สะท้อนเสียงเรียกร้องของบูลลาร์ด ขณะที่แมรี เดลี
ประธานเฟดซานฟรานซิสโกกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ถึงเวลาต้องพักนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว
สรุปตลาดโดยรวม ทิศทางทองคำวันนี้ไปในทางกดดันราคาทองคำส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ดีให้นักลงทุนพิจารณาในการเข้าเทรดทุกครั้ง

แนวต้านระยะสั้น H1
  • 1955.65
  • 1947.03
  • 1939.72
  • 1933.50

แนวรับระยะสั้น H1
  • 1919.41
  • 1913.54
  • 1906.39
  • 1897.33
    ยังไงก็ดีผลกระทบทองคำสำคัญหลักๆอยู่ 5 ปัจจัย
    1.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
    2.สงครามยูเครน-รัสเซีย
    3.การแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด
    4.ราคาน้ำมัน
    5.ยูโร และ PMIs ของอังกฤษ
    ที่นักลงทุนทุกท่านควรติดตามสถานการณ์ต่างเพื่อไม่พลาดในการลงทุน
    ตอนนี้เราได้จัดทำกลุ่มไลน์พูดคุย เฟสบุ๊ค รวมถึงเพจไว้แชร์ข่าวสารต่างๆให้ท่านได้ติดตาม
    ขอบคุณครับ

คำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ

ข้อมูลและบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางการเงิน, การลงทุน, การซื้อขาย, ข้อเสนอแนะ หรือคำแนะนำประเภทอื่น ๆ ที่ให้หรือรับรองโดย TradingView อ่านเพิ่มเติมที่ เงื่อนไขการใช้บริการ